#เรื่องจิ๋มของโบราณคดี กับตำราดูอวัยวะเพศหญิงแบบสยาม

กามสูตรที่ไม่ต้องไปอินเดียหรือจีน เมื่อไทยก็มีตำรากามสูตรของตัวเอง โดยได้ชื่อว่า “ผูกนิพพานโลกีย์” เป็นตำราใบลานที่อธิบายคุณและโทษของกิจกรรมหรรษาในร่มแบบโบราณที่เรียกได้ว่าอธิบายแม้แต่จิ๋มที่ดีและจิ๋มที่ไม่โอเค บอกได้เลยว่าถ้าลองได้อ่านเต็มๆ จะรู้ได้เลยว่า “เรื่องของจิ๋มซับซ้อนกว่าที่คิด”

พอพูดคำว่า “กามสูตร” คนส่วนมากต้องคิดถึงอินเดีย เพราะเป็นเจ้าตำรับโบราณในการทำตำราเรื่องเพศสัมพันธ์ซึ่งโด่งดังหลังชาวตะวันตกมาค้นพบความอะเมซิ่งนี้ แต่เรื่องเพศสำหรับคนโบราณก็ดังที่กล่าวไปในตอนที่ 1-2 คือเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตมนุษย์และการสร้างวัฒนธรรมมาอย่างยาวนานนับแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เจ้าตำรับกามสูตรแบบตะวันออกที่เราคุ้นเคยกันก็จะมีอินเดีย จีน และญี่ปุ่น ต่อมาเมื่อมีการพบใบลานผูกนี้จึงเป็นตัวเสริมมุมมองเรื่องเพศของคนในสยามว่าฉันก็มีนะเออ เธออย่าคิดว่าฉันไม่มีเรื่องจิ๋มๆ

ตำราใบลานนี้ถูกพบตอนการจัดทำทะเบียนข้อมูลใบลานที่วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.ตราด ซึ่งมีความแตกต่างตรงที่ปกติการจารใบลานมักจะทำเกี่ยวกับเรื่องทางศาสนา แต่ใบลานผูกนี้เป็นเรื่องราวกามสูตรอย่างชัดเจน จารลงด้วยอักษรขอมและไทย เป็นภาษาบาลีและภาษาไทย มี 28 หน้าลาน

ความน่าสนใจที่ไม่ค่อยต่างจากวัฒนธรรมของอินเดียคือการทำนายลักษณะคุณโทษของลับ ส่วนของไทยจะใช้การคำนวณเวลาตกฟากวันเดือนปีเกิด เพื่อนำมาใช้ทำนายถึงของลับ เมื่อทราบแล้วก็จะรู้คุณหรือโทษในการเสพกามกับหญิงนั้นๆ ซึ่งในกามสูตรของอินเดียและจีนก็มีกล่าวในลักษณะคล้ายกัน

ผูกนิพพานโลกีย์ยังมีเนื้อหาในการวิเคราะห์พื้นที่จุดต่างๆ บริเวณปากช่องคลอดอีกด้วย แต่หากจะมาพูดกันแบบตรงไปตรงมาก็อาจจะบัดสีบัดเถลิงไปเสียหน่อย จึงขอยกตัวอย่างในการเลือกเสพสมกับหญิงด้วยสีผิวแบบต่างๆ สีผิวแบบไหนให้รสแบบใด ทำนองว่า…

“หญิงใดสีตัวเหลืองกามอยู่คิ้วทั้งสอง เมื่อเสพมันด้วยมันหใหยิกคิ้วก่อน กามมันจึงวาบออกมากมันรักเราแล มันทำดังเจ็บ มันหากมายาจะให้ชายเบี่ยงตัวจูบกามมัน ดังหัวใจจะขาดด้วยเราแล ฯ หญิงใดสีตัวเหลืองดังขี้ผึ้ง กามอยู่สะดือ เมื่อเสพด้วยมัน มันมักว่าให้ยอกกามมันจึงออก มันยินดีด้วยเราแล ฯ หญิงใดสีดังตัวยอ เสพด้วยมันให้หยิบนมไว้ให้จงหนัก กามมันจึงออกมันรักเราแล ฯ ให้เอารากบัวขาวมาฟันผูกรากรักซ้อนคาดเอวเล่นด้วยผู้หญิง ใจมันรักจะขาดแล ฯ ”

ดังเนื้อหาข้างต้นจะได้เห็นว่าตัวผูกนิพพานโลกีย์จะมีการแนะนำการร่วมเพศให้เหมาะสมกับคุณลักษณะของสตรีนั้นๆ เพื่อให้ได้ประโยชน์ด้านความสุขทางเพศ มุ่งเน้นไปที่การสร้างความสุขสมทั้ง 2 ฝ่าย เรื่องเพศไม่ใช่ความฟินของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งก็คล้ายกับแนวคิดแบบเต๋าของจีนในการมุ่งเน้นว่าให้ร่วมสังวาสกันโดยมอบความสุขให้กับฝ่ายหญิงด้วย ไม่ใช่ I’m going Solo นะคะ โดยเรื่องว่าทำแบบใดจะเสพสมได้ดี ก็จะมีเรื่องของรูปลักษณ์โหงวเฮ้งมาเกี่ยวข้องด้วย เช่น…

“…หญิงใดหน้าดังลูกละมุดสีดา โยนีดังนารกา (ลูกมะพร้าว) เมื่อสมโยคทำโก้งโค้งขึ้น สมโยคให้หนักๆ สบใจนักแล ฯ หญิงใดหน้าน้อย โยนีดังกะลาคว่ำ เมื่อสมโยคนั้นให้แหกขาออกทั้ง 2 ข้าง ทำให้หนักๆ สบใจนักแลฯ ”

ครบตำราในผูกเดียวที่อธิบายตั้งแต่มุมมองในการพิจารณาอวัยวะเพศ การแนะนำวิธีร่วมสังวาส และจากวิธีคำนวณบวกลบชะตาวันเกิดซึ่งเป็นลักษณะวิธีแบบไทยๆ ทำให้เราเห็นการรับเอาแนวคิดบางอย่างจากวัฒนธรรมในเรื่องเพศและปรับใช้เพื่อให้เหมาะกับจิ๋มและเซ็กส์แบบไทย

อย่างไรก็ตาม จะจิ๋มไหน จิ๋มใคร ก็อย่าเอาแต่เรื่องจิ๋มเป็นสำคัญ ทุกอย่างต้องมีความพอดี ดังเนื้อความหนึ่งของผูกนิพพานโลกีย์ว่าไว้…

“ถ้าทำถึงใจอย่ากลัวอด
ถึงสิ้นหมดจนตายไม่หน่ายหนี
จะฉิบหายลาโภเพราะโยนี
มักถอยทรัพย์อัปรีย์เชื่อใจคน ฯ ”

สามารถอ่านเนื้อหาของ ผูกนิพพานโลกีย์ แปลถอดความแล้วจากหนังสือชื่อเดียวกันนี้ เขียนโดย อภิลักษณ์ เกษมผลกูล ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์มติชน ซึ่งใช้ในการอ้างอิงเขียนเล่าในคราวนี้ค่ะ


ที่มาของภาพประกอบ : ภาพจิตรกรรมที่วัดหนองยาวสูง จังหวัดสระบุรี เผยแพร่ผ่านทาง ศิลปวัฒนธรรมออนไลน์

ใส่ความเห็น

Please log in using one of these methods to post your comment:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.