หากใครได้มีโอกาสดูภาพยนตร์แฟรนไชส์ The Suicide Squad จะต้องเห็นต้าวฉลามหง่ำๆ ที่ดูน่ารักบนความน่ากลัว ที่มาที่ไปของตัวละครนี้ค่อนข้างน่าสนใจ ด้วยเป็นการหยิบยกตำนานในวัฒนธรรมของคนฮาวายมาเล่าใหม่ แล้วตัวจริงของ Nanaue เป็นยังไงล่ะ? มามะ…ArchaeoGO จะเล่าให้ฟัง (กรุณาเปิดเพลงเบบี้ชาร์คประกอบการอ่าน)
ชาวฮาวายมีความเชื่อเรื่องเทพเจ้าฉลามที่คอยปกปักษ์รักษาทะเลและเหล่ามวลมนุษย์ เทพฉลามเหล่านี้มีหลายองค์ โดยนานาอุเอะไม่ได้เป็นเทพเต็มตัว แต่มีความเป็นกึ่งคนกึ่งเทพ เพราะมีบิดาเป็นเทพฉลามนามว่า “คาโมฮัวลิอิ” (Kamohoali‘i) ราชาของเหล่าฉลามผู้เป็นพี่ชายของเทพีเปเล่ (Pele) เทพธิดาแห่งไฟ ซึ่งดูจะแตกต่างไปจากสตอรี่และชื่อเรียกในจักรวาล DC ซึ่งนานาอุเอะได้รับการเรียกขานว่า “King Shark” ซึ่งควรจะไว้สำหรับเรียกตัวพ่อมากกว่าตัวลูก

กำเนิดของนานาอุเอะเริ่มจากตอนที่คาโมฮัวลิอิ เทพกษัตริย์จอมฉลามขึ้นมาบนฝั่งและได้พบกับสาวงามนามว่าคาเลอิ (Kalei) ผู้มีความแข็งแกร่ง สง่างาม และยังเป็นยอดนักดำน้ำ เธอเป็นหนึ่งในผู้ที่สามารถทำ lelekawa หรือการกระโดดจากก้อนหินลงไปในน้ำลึกโดยไม่เกิดเสียงแม้แต่นิดเดียว คาโมฮัวลิอิพยายามแปลงกายเป็นชายรูปงามเพื่อรอคอยจะได้พบกับคาเลอิ
ด้วยโอกาสอันงามในการทำคะแนน เทพฉลามผู้นี้ก็ได้ช่วยเหลือสาวงามจากท้องทะเลอันแปรปรวนจนเกิดเป็นความรักระหว่างคนกับเทพขึ้น และผลพวงที่ตามมาก็คือนานาอุเอะ ตอนแรกคาโมฮัวลิอิก็ปกปิดความจริงกับภรรยา จนกระทั่งเมื่อนานาอุเอะลืมตาดูโลก จึงจำเป็นที่จะต้องบอกตัวตนของบุตรว่ามีเชื้อสายของเทพฉลาม และห้ามเลี้ยงดูเด็กคนนี้ด้วยเนื้อสัตว์โดยเด็ดขาด
การมีบิดาเป็นเทพฉลามทำให้นานาอุเอะเกิดมาโดยมีปากฉลามอยู่ตรงกลางหลัง มีไหล่สองข้างคมดุจใบมีด นอกจากนี้ก็ดูเหมือนมนุษย์ทั่วไปทุกอย่าง จนกระทั่งถึงวัยที่นานาอุเอะต้องเข้าพิธีคาปู (Kapu) ซึ่งเป็นพิธีกรรมของเด็กชายฉลองอายุครบวัย 3-4 ขวบ โดยเด็กชายจะต้องเข้าไปอยู่ในบ้านเดียวกับเหล่าญาติผู้ใหญ่เพศชายในเผ่าและได้รับมื้ออาหารที่ป้อนโดยปู่หรือตา (kupunakāne)
ระหว่างทำพิธีดังกล่าวเด็กจะถือว่าอยู่ในการดูแลของเทพบรรพบุรุษชื่อว่าคามาเคา (Kamakau) จังหวะนี้เองด้วยความไม่รู้ ทำให้นานาอุเอะถูกป้อนด้วยอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ เหตุการณ์นี้ส่งผลให้นานาอุเอะมีร่างเป็นฉลามเมื่อลงไปในน้ำเมื่อเติบใหญ่ขึ้น
ความลับของเขายิ่งยากจะปกปิดทบทวีไปกับควบปีที่เคลื่อนผ่าน เขาไม่สามารถอาบน้ำพร้อมคนอื่นๆ ได้ ต้องสวมเครื่องแต่งกายปกปิดปากฉลามที่หลังตลอดเวลาซึ่งผิดสังเกตไปจากเด็กชายทั่วไปที่จะเปลือยอกเปลือยหลังกัน
ความผิดปกติของนานาอุเอะกับความต้องการในการกินเนื้อของเขาค่อยๆ ถึงจุดสิ้นสุดลง การหายตัวไปของคนในหมู่บ้านที่มักจะมีโอกาสพูดคุยกับนานาอุเอะถึงการออกไปว่ายน้ำลำพังค่อยๆ กระจายไปถึงหูของราชาอูมิ (Umi) ผู้ปกครองฮาวาย ทำให้เกิดการตามล่าเพื่อจะเผาเขาทั้งเป็น แต่นานาอุเอะก็ร้องขอให้เทพบิดาของตนเข้าช่วยเหลือ ทำให้สามารถหลุดจากพันธนาการแล้วตรงดิ่งไปยังทะเล เสียซึ่งร่างกายของมนุษย์ไปในบัดดล แต่ร่างกายแบบมนุษย์ของนานาอุเอะกลับคืนมาหลังจากที่เขาได้พบกับวีรบุรุษมาวอิ (Maui) ภายหลัง

บางตำนานบอกว่านานาอุเอะเป็นเทพที่ชอบเนื้อมนุษย์มาก กบดานอยู่ในถ้ำ Kāneana หรือมักเรียกอีกชื่อว่า Mākua มักจะชอบแปลงกายเป็นมนุษย์ โดยปรากฏในรูปร่างของชายชราที่ก่อกองไฟอยู่รอให้มีนักเดินทางผ่านมาพบและร่วมวงดื่มกินด้วย และเมื่อเหยื่อตกหลุมพรางนานาอุเอะก็จะคืนร่างเป็นฉลามเพื่อทำการเชือดเหยื่อ ก่อนจะนำร่างของผู้ตายไปหมกในถ้ำราวๆ สามอาทิตย์แล้วจึงนำออกมากินเป็นอาหาร ชาวฮาวายจึงเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้เต็มไปด้วยดวงวิญญาณมากมายที่วนเวียนอยู่
References:
- Chinn-Liu, Sierra.(May 14, 2013).The Shark Man, Nanaue.USC Digital Folklore Archives. Retrieved from http://folklore.usc.edu/the-shark-man-nanaue/ [cited 15 August 2021]
- Lee, Diana.(October 31, 2015). The Legend of Wai‘anae’s Haunted Mākua Cave.Honolulu Magazine. Retrieved from https://www.honolulumagazine.com/the-legend-of-waianaes-haunted-makua-cave/ [cited 15 August 2021]
- Nakuina, E. M.(1907).The Shark-man,Nanaue. Hawaiian Folk Tales, by Thomas G. Thrum. Retrieved from https://www.sacred-texts.com/pac/hft/hft27.htm [cited 15 August 2021]
