จากที่เคยได้เขียนถึงตัวละครขวัญใจชาวไทยจากมังงะและอนิเมะเรื่อง Record of Ragnarok แล้วมีผู้ให้ความสนใจเยอะ เราเลยกลับมาอีกครั้งเพื่อบอกเล่าสาเหตุว่าทำไมพระพุทธเจ้าทั้งในโลกจริงและการ์ตูนถูกรังสรรค์ให้มีหน้าตาแบบที่เราเห็นๆ กัน อะไรทำให้ “บุดด้า” มีความเหนือมนุษย์ มาค้นหาจากสิ่งที่ถูกบอกเล่าไว้ตามคัมภีร์ต่างๆ พร้อมกัน
ทุกคนคงรู้จักพระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาของศาสนาพุทธกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับสังคมไทยที่มีการปลูกฝังวิชาพระพุทธศาสนาในแบบเรียนพื้นฐาน แต่พระพุทธเจ้าของเราเป็นเพียงเวอร์ชันหนึ่งที่ถูกพัฒนาความเชื่อจากต้นทางที่มาจากอินเดีย ไม่ใช่แค่กับไทยเท่านั้น ปรากฏการณ์ผสมผสานความเชื่อท้องถิ่นกับศาสนาพุทธยังเกิดในจีนและญี่ปุ่น กรณีหลังมีการหยิบยกเอาเรื่องราวทางศาสนามารื้อสร้างจนกลายเป็นคาแรคเตอร์ในสื่อเป็นระยะ ตัวอย่างที่เราพูดถึงกันวันนี้มาจากเรื่อง “มหาศึกคนชนเทพ” [終末のワルキューレ] ที่กลายเป็นอนิเมะยอดเข้าชมสูงในแพลตฟอร์ม Netflix ตอนนี้
แต่ถึงจะมีการผสมผสานความเชื่ออื่นก็ยังมีลักษณะบางประการที่เหมือนกันในหลักการคือพระธรรมคำสอนและคัมภีร์โบราณที่สืบทอดกันมา โดยเฉพาะคัมภีร์ภาษาบาลีอย่างพระไตรปิฎก รวมถึงคติและเรื่องราวที่มักนำมาประกอบร่างรูปเคารพหรือศิลปกรรมที่บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนา
ลักษณะทางกายภาพที่ถูกนำมาอ้างอิงในการสร้างพระพุทธรูปมาจากข้อความในลักขณสูตร ส่วนหนึ่งพระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ซึ่งเขียนขึ้นก่อนยุคสมัยของการเริ่มสร้างพระพุทธรูป เมื่อเกิดคติสร้างพระพุทธรูปก็ได้นำเอาภาพลักษณ์ดังกล่าวมาประยุกต์สร้างขึ้นโดยยังคงสุนทรียภาพและความสมจริงของกายวิภาคบางประการ
สารบัญ
- มหาบุรุษลักษณะ | ความคนเหนือคนของศากยมุนี
- อนุพยัญชนะ 80 ประการ | ขยายความงามและยิ่งใหญ่
- แล้ว “ศากยมุนี” ในมหาศึกคนชนเทพล่ะ?
มหาบุรุษลักษณะ | ความคนเหนือคนของศากยมุนี
ภาพลักษณ์ของพระพุทธเจ้าอยู่ในลักษณะที่เรียกว่า “มหาบุรุษลักษณะ” หรือ “มหาปุริสลักขณะ” ซึ่งบรรยายถึงความเป็นมหาบุรุษของพระพุทธเจ้าที่แม้จะทรงมีกายภาพอย่างมนุษย์ไม่ใช่เทพ แต่ก็ยกระดับคุณลักณะของพระองค์ให้โดดเด่นขึ้นเหนือกว่าคนปกติเพื่อเป็นการยกย่อง ประกอบด้วยลักษณะ 32 ประการ นอกจากนี้แล้วยังมี “อนุพยัญชนะ” เป็นรูปลักษณ์ปลีกย่อยมาจากมหาบุรุษลักษณะอีก 80 ประการ อนุพยัญชนะเป็นคุณสมบัติที่มาช่วยขยายมหาบุรุษ 32 ประการดังที่กล่าวไปข้างต้น
โดยเนื้อหาของมหาบุรุษลักษณะที่อยู่ในลักขณสูตรปรากฏดังนี้
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระมหาบุรุษในโลกนี้
-ลักขณสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๓
1. มีพระบาทประดิษฐานเป็นอันดี ภิกษุทั้งหลาย การที่พระมหาบุรุษ
มีพระบาทประดิษฐานเป็นอันดี นี้เป็นมหาปุริสลักษณะของมหาบุรุษ ฯ
2. ณ พื้นภายใต้ฝ่าพระบาท ๒ ของพระมหาบุรุษ มีจักรเกิดขึ้น มีซี่กำข้างละพัน มีกง มีดุม บริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง ภิกษุทั้งหลาย แม้การที่พื้นภายใต้ฝ่าพระบาททั้ง ๒ ของพระมหาบุรุษ มีจักรเกิดขึ้น มีซี่กำข้างละพัน มีกง มีดุม บริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง นี้ก็มหาปุริสลักษณะของพระมหาบุรุษ ฯ
3. มีส้นพระบาทยาว ฯ
4. มีพระองคุลียาว ฯ
5. มีฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทอ่อนนุ่ม ฯ
6. มีฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทมีลายดุจตาข่าย ฯ
7. มีพระบาทเหมือนสังข์คว่ำ ฯ
8. มีพระชงฆ์รีเรียวดุจแข้งเนื้อทราย ฯ
9. เสด็จสถิตยืนอยู่มิได้น้อมลง เอาฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองลูบคลำได้ถึงพระชาณุทั้งสอง ฯ
10. มีพระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก ฯ
11. มีพระฉวีวรรณดุจวรรณะแห่งทองคำ คือ มีพระตจะ ประดุจหุ้มด้วยทอง ฯ
12. มีพระฉวีละเอียด เพราะพระฉวีละเอียด ธุลีละอองจึงมิติดอยู่ในพระกายได้ ฯ
13. มีพระโลมชาติเส้นหนึ่งๆ เกิดในขุมละเส้นๆ ฯ
14. มีพระโลมชาติมีปลายช้อยขึ้นข้างบน มีสีเขียว มีสีเหมือนดอกอัญชัญ ขดเป็นกุณฑลทักษิณาวัฏ ฯ
15. มีพระกายตรงเหมือนกายพรหม ฯ
16. มีพระมังสะเต็มในที่ ๗ สถาน ฯ
17. มีกึ่งพระกายท่อนบนเหมือนกึ่งกายท่อนหน้าของสีหะ ฯ
18. มีระหว่างพระอังสะเต็ม ฯ
19. มีปริมณฑลดุจไม้นิโครธ วาของพระองค์เท่ากับพระกายของพระองค์พระกายของพระองค์ก็เท่ากับวาของพระองค์ ฯ
20. มีลำพระศอกลมเท่ากัน ฯ
21. มีปลายเส้นประสาทสำหรับนำรสอาหารอันดี ฯ
22. มีพระหนุดุจคางราชสีห์ ฯ
23. มีพระทนต์ ๔๐ ซี่ ฯ
24. มีพระทนต์เรียบเสมอกัน ฯ
25. มีพระทนต์ไม่ห่าง ฯ
26. มีพระทาฐะ (เขี้ยว) ขาวงาม ฯ
27. มีพระชิวหาใหญ่ ฯ
28. มีพระสุรเสียงดุจเสียงแห่งพรหม ตรัสมีสำเนียงดังนกกรวิก ฯ
29. มีพระเนตรดำสนิท [ดำคม] ฯ
30. มีดวงพระเนตรดุจตาแห่งโค ฯ
31. มีพระอุณาโลมบังเกิด ณ ระหว่างพระขนง มีสีขาวอ่อน ควรเปรียบด้วยนุ่น ฯ
32. มีพระเศียรดุจประดับด้วยกรอบพระพักตร์ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้การที่พระมหาบุรุษ มีพระเศียรดุจประดับด้วยกรอบพระพักตร์นี้ ก็เป็นมหาปุริสลักษณะของพระมหาบุรุษนั้น ฯ”
ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
นอกจากพระไตรปิฎกภาษาบาลีซึ่งเป็นคัมภีร์ในนิกายเถรวาทแล้ว ในคัมภีร์ภาษาสันสฤตฝ่ายมหายานก็มีการกล่าวถึงมหาบุรุษลักษณะด้วยเช่นกัน โดยปรากฏในคัมภีร์ลลิตวิสตระ พระพุทธประวัติของนิกายสรวาสติวาส (Sarvāstivāda) ความว่า…
“มหาปุรุษลักษณะนั้นคือ
– ลลิตวิสตระ คัมภีร์พระพุทธประวัติฝ่ายมหายาน,หน้า 598-599
1.อุษฺณีษศีรฺษะ พระเศียรรูปเหมือนโพกผ้า หรือเหมือนสวมมกุฎ คือพระเศียรสูง
2.ภินฺนาญฺชนมยูรกลาปาภินีลวลฺลิตปฺรทกฺษิณาวรฺตเกศะ พระเกศา แยกเส้นกันสีเขียวเข้มเหมือนสียาป้ายขอบตาหรือสีดอกอัญชัน หรือสีโคนหางนกยูง ขมวดเวียนขวา
3.สมวิปุลลลาฏะ พระนลาฏ (หน้าผาก) กว้างเรียบ
4.อูรฺณาภฺรุโวมเธฺยชาตาหิมรชตปฺรกาศา ขนอ่อนเกิดที่หว่างคิ้ว (อุณาโลม) สีขาวเหมือนน้ำค้างหรือเงินยวง
5.โคเปกฺษมเนตระ พระเนตรมีขอบเหมือนขอบตาวัว
6.อภินีลเนตฺระ พระเนตรสีเขียวเข้ม
7.สมจตฺวารึศทฺทนฺตะ มีพระทนต์ (ฟัน) 40 ซี่ เท่าๆ กัน
8.อวิรลทนฺตะ ซี่พระทนต์ชิดกัน
9.ศุกฺลทนฺตะ พระทนต์ขาวสะอาด
10.พฺรหฺมสฺวร มีเสียงไพเราะเหมือนเสียงแห่งพรหม
11.รสรสาคฺรวานฺ ปลายพระชิวหารู้รสไว
12.ปฺรภูตตนุชิหฺวะ พระชิวหาแผ่ออกได้มาก
13.สีหหนุ พระหนุ (คาง) เหมือนคางราชสีห์
14.สุสํวฺฤตฺตสฺกนฺธะ มีพระวรกายสำรวมอินทรีย์เป็นอย่างดี
15.สปฺโตตฺสทะ มีพระมังสา (กล้ามเนื้อ) อูมนูน 7 แห่ง
16.จิตานฺตรำสะ พระอังสา (ไหปลาร้า) มีเนื้อเต็ม
17.สูกฺษม สุวรฺณรฺณจฺฉวิ พระฉวี (ผิว) ละเอียดมีสีเหมือนสีทอง
18.สฺถิโต’ นวนตปฺรลมฺพพาหุ พระวรกายยืนตรงไม่คดค้อม พระพาหา (แขน) ยาว
19.สึหปูรฺวารฺธกายะ พระวรกายท่อนบนเหมือนท่อนบนของราชสีห์
20.นฺยโครธปริมณฺฑโล มีปริมณฑลเหมือนปริมณฑลของต้นไทร
21.เอไกกโรมา มีพระโลมา (ขน) ขุมละเส้น
22.อุรฺธฺวาคฺราภิปฺรทกฺษิณาวรฺตโรมา พระโลมาเวียนขวาปลายพระโลมาชี้ขึ้นบน
23.โกโศปคตพสฺติคุหฺยะ พระคุยหะ (เครื่องเพศ) ซ่อนอยู่ในฝัก
24.สุวิวรฺติโตรุ ต้นพระชงฆ์ (ขาท่อนบน) กลมงาม
25.เอเณยมฺฤคราชชงฺฆะ พระชงฆ์ (ขาท่อนล่าง) เหมือนแข้งพระยาเนื้อทราย
26.ทีรฺฆางฺคุลิ นิ้วพระหัตถ์ นิ้วพระบาทยาว
27.อายตปารฺษฺณิปาทะ พระปรัษณี (ส้นเท้า) ยาว
28.อุตฺสงฺคปาทะ พระบาทลาดขึ้นสูง
29.มฺฤทุตรุณหสฺตปาทะ พระหัตถ์ พระบาทนุ่มสด
30.ชาลางฺคุลีหสฺตปาทะ นิ้วพระหัตถ์ นิ้วพระบาทและพระหัตถ์ พระบาทมีรูปลายตาข่าย
31.ทีรฺฆางฺคุลิรธะกฺรมตลโยรฺ จเกฺรชาเต จิเตฺร สหสฺราเร สเนมิเก สนาภิเกพระบาททั้งสองลาดต่ำลงโดยลำดับ นิ้วพระบาทยาวเกิดมีลายกงจักรอันวิจิตร (สีขาวมีประกายเหมือนเปลวไฟ)มีซี่ 1,000 พร้อมด้วยกงและดุม
32.สุปฺรติษฺฐิตสมปาโท ฝ่าพระบาทแนบสนิทกับพื้นเป็นอย่างดี”
ทั้งสองคัมภีร์ต่างนิกายให้รายละเอียดของมหาบุรุษลักษณะที่ใกล้เคียงกันและบางข้อเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน ลักษณะมหาบุรุษนี้เป็นลักษณะที่จะเกิดกับผู้เป็นใหญ่ในโลก หากดำเนินทางโลกก็จะเป็นมหาจักรพรรดิ ในทางธรรมนั้นถือเป็นลักษณะของพระโพธิสัตว์ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าต่อไป
ลักษณะบางประการสอดคล้องกับกายวิภาคศาสตร์มนุษย์จริง ในขณะที่บางข้อก็ดูเป็นลักษณะอุดมคติเหนือจริง หากนำมาใช้ในงานศิลปะก็จะทำให้ดูขาดความเป็นมนุษย์และไม่สมส่วนงดงาม นั่นอาจเป็นจุดที่ประติมากรเลือกนำเอาเพียงลักษณะบางประการไปพิจารณาร่วมกับมุมมองด้านสุนทรียะในยุคสมัยดังกล่าวจนเกิดเป็นศิลปะที่แตกต่างกันด้วยสไตล์ ขึ้นอยู่กับหลักการและค่านิยมทางวัฒนธรรม พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในอินเดียมีความเป็นมนุษยนิยม จึงมีลักษณะกายภาพใกล้เคียงหรือเหมือนมนุษย์จริงๆ ในขณะที่ศิลปะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สมัยหลังที่มีความเป็นอุดมคติสูงกว่า
อนุพยัญชนะ 80 ประการขยายความงามและยิ่งใหญ่
การอาศัยเพียงมหาบุรุษลักษณะ 32 ประการก็อาจยังไม่ละเอียดพอสำหรับชาวพุทธ จึงมีการเขียนลักษณะเสริมอีก 80 ประการ ซึ่งลักษณะทางกายภาพของพระพุทธรูปยังมีการอ้างอิงรูปแบบมาปรับใช้ในการสร้างงาน กล่าวได้ว่าอนุพยัญชนะทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมรูปลักษณ์ของพระพุทธเจ้าและพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นภาพแทนตามคติดังกล่าว
ข้อมูลจากพจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับประมวลศัพท์ โดยพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)และพระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) มีการแปลอนุพยัญชนะ 80 ประการไว้ว่า…
อนุพยัญชนะ ลักษณะน้อยๆ,พระลักษณะข้อปลีกย่อยของพระมหาบุรุษ (นอกเหนือจากมหาบุรุษลักษณะ 32) อีก 80 ประการ คือ
1. มีนิ้วพระหัตถ์และนิ้วพระบาทอันเหลืองงาม
2. นิ้วพระหัตถ์และนิ้วพระบาทเรียวออกไป โดยลำดับแต่ต้นจนปลาย
3. นิ้วพระหัตถ์ แลนิ้วพระบาทกลมดุจนายช่างกลึงเป็นอันดี
4. พระนขาทั้ง ๒๐ มีสีอันแดง
5. พระนขาทั้ง ๒๐ นั้นงอนงามช้อนขึ้นเบื้องบนมิได้ค้อมลงเบื้องต่ำ ดุจเล็บแห่งสามัญชนทั้งปวง
6. พระนขานั้นมีพรรณอันเกลี้ยงกลม สนิทมิได้เป็นริ้วรอย
7. ข้อพระหัตถ์และข้อพระบาทซ่อนอยู่ในพระมังสะ มิได้สูงขึ้นปรากฏออกมาภายนอก
8. พระบาททั้งสองเสมอกัน มิได้ย่อมใหญ่กว่ากัน มาตรว่าเท่าเมล็ดงา
9. พระดำเนินงามดุจอาการเดินแห่งกุญชรชาติ
10. พระดำเนินงามดุจสีหราช
11. พระดำเนินงามดุจดำเนินแห่งหงส์
12. พระดำเนินงามดุจอุสภราชดำเนิน
13. ขณะเมื่อยืนจะย่างดำเนินนั้น ยกพระบาทเบื้องขวาย่างไปก่อน พระกายเยื้องไปข้างเบื้องขวาก่อน
14. พระชานุมณฑลเกลี้ยงกลมงามบริบูรณ์ บ่มิได้เห็นอัฏฐิสะบ้าปรากฏออกมาภายนอก
15. มีบุรุษพยัญชนะบริบูรณ์ คือมิได้มีกิริยามารยาทคล้ายสตรี
16. พระนาภีมิได้บกพร่อง กลมงามมิได้วิกลในที่ใดที่หนึ่ง
17. พระอุทรมีสัณฐานอันลึก
18. ภายในพระอุทรมีรอยเวียนเป็นทักขิณาวัฏฏ
19. ลำพระเพลาทั้งสองกลมงามดุจลำสุวรรณกัททลี
20. ลำพระกรทั้งสองงามดุจงวงแห่งเอราวัณเทพยหัตถี
21. พระอังคาพยพใหญ่น้อยทั้งปวงจำแนกเป็นอันดี คือ งามพร้อมทุกสิ่งหาที่ตำหนิบ่มิได้
22. พระมังสะที่ควรจะหนาก็หนา ที่ควรจะบางก็บางตามที่ทั่วทั้งประสรีรกาย
23. พระมังสะมิได้หดหู่ในที่ใดที่หนึ่ง
24. พระสรีรกายทั้งปวงปราศจากต่อมและไฝปาน มูลแมลงวันมิได้มีในที่ใดที่หนึ่ง
25. พระกายงามบริสุทธิ์พร้อมสมกันโดยตามลำดับทั้งเบื้องบนแลเบื้องล่าง
26. พระกายงามบริสุทธิ์พร้อมสิ้นปราศจากมลทินทั้งปวง
27. ทรงพระกำลังมาก เสมอด้วยกำลังแห่งกุญชรชาติ ประมาณถึงพันโกฏิช้าง ถ้าจะประมาณด้วยกำลังบุรุษก็ได้ถึงแสนโกฏิบุรุษ
28. มีพระนาสิกอันสูง
29. สัณฐานนาสิกงามแฉล้ม
30. มีพระโอษฐ์เบื้องบนเบื้องต่ำมิได้เข้าออกกว่ากัน เสมอเป็นอันดี มีพรรณแดงงามดุจสีผลตำลึงสุก
31. พระทนต์บริสุทธิ์ปราศจากมูลมลทิน
32. พระทนต์ขาวดุจดังสีสังข์
33. พระทนต์เกลี้ยงสนิทมิได้เป็นริ้วรอย
34. พระอินทรีย์ทั้ง ๕ มีจักขุนทรีย์เป็นอาทิงามบริสุทธิ์ทั้งสิ้น
35. พระเขี้ยวทั้ง ๔ กลมบริบูรณ์
36. ดวงพระพักตร์มีสัณฐานยาวสวย
37. พระปรางค์ทั้งสองดูเปล่งงามเสมอกัน
38. ลายพระหัตถ์มีรอยอันลึก
39. ลายพระหัตถ์มีรอยอันยาว
40. ลายพระหัตถ์มีรอยอันตรง บ่มิได้ค้อมคด
41. ลายพระหัตถ์มีรอยอันแดงรุ่งเรือง
42. รัศมีพระกายโอภาสเป็นปริมณฑลโดยรอบ
43. กระพุ้งพระปรางค์ทั้งสองเคร่งครัดบริบูรณ์
44. กระบอกพระเนตรกว้างแลยาวงามพอสมกัน
45. ดวงพระเนตรกอปรด้วยประสาททั้ง ๕ มีขาวเป็นอาทิผ่องใสบริสุทธิ์ทั้งสิ้น
46. ปลายเส้นพระโลมาทั้งหลายมิได้งอมิได้คด
47. พระชิวหามีสัณฐานอันงาม
48. พระชิวหาอ่อนบ่มิได้กระด้างมีพรรณอันแดงเข้ม
49. พระกรรณทั้งสองมีสัณฐานอันยาวดุจกลีบปทุมชาติ
50. ช่องพระกรรณมีสัณฐานอันกลมงาม
51. ระเบียบพระเส้นทั้งปวงนั้นสละสลวยบ่มิได้หดหู่ในที่อันใดอันหนึ่ง
52. แถวพระเส้นทั้งหลายซ่อนอยู่ในพระมังสะทั้งสิ้น บ่มิได้เป็นคลื่นฟูขึ้นเหมือนสามัญชนทั้งปวง
53. พระเศียรมีสัณฐานงามเหมือนฉัตรแก้ว
54. ปริมณฑลพระนลาฏโดยกว้างยาวพอสมกัน
55. พระนลาฏมีสัณฐานอันงาม
56. พระโขนงมีสัณฐานอันงามดุจคันธนูอันก่งไว้
57. พระโลมาที่พระโขนงมีเส้นอันละเอียด
58. เส้นพระโลมาที่พระโขนงงอกขึ้นแล้วล้มราบไปโดยลำดับ
59. พระโขนงนั้นใหญ่
60. พระโขนงนั้นยาวสุดหางพระเนตร
61. ผิวพระมังสะละเอียดทั่วทั้งพระกาย
62. พระสรีรกายรุ่งเรืองไปด้วยสิริ
63. พระสรีรกายมิได้มัวหมอง ผ่องใสอยู่เป็นนิตย์
64. พระสรีรกายสดชื่นดุจดวงดอกปทุมชาติ
65. พระสรีรสัมผัสอ่อนนุ่มสนิท บ่มิได้กระด้างทั่วทั้งพระกาย
66. กลิ่นพระกายหอมฟุ้งดุจกลิ่นสุคนธกฤษณา
67. พระโลมามีเส้นเสมอกันทั้งสิ้น
68. พระโลมามีเส้นละเอียดทั่วทั้งพระกาย
69. ลมอัสสาสะและปัสสาสะลมหายพระทัยเข้าออกก็เดินละเอียด
70. พระโอษฐมีสัณฐานอันงามดุจแย้ม
71. กลิ่นพระโอษฐหอมดุจกลิ่นอุบล
72. พระเกสาดำเป็นแสง
73. กลิ่นพระเกสาหอมฟุ้งขจรตลบ
74. พระเกสาหอมดุจกลิ่นโกมลบุบผชาติ
75. พระเกสามีสัณฐานเส้นกลมสลวยทุกเส้น
76. พระเกสาดำสนิททั้งสิ้น
77. พระเกสากอปรด้วยเส้นอันละเอียด
78. เส้นพระเกสามิได้ยุ่งเหยิง
79. เส้นพระเกสาเวียนเป็นทักขิณาวัฏฏทุกๆ เส้น
80. วิจิตรไปด้วยระเบียบพระเกตุมาลา กล่าวคือถ่องแถวแห่งพระรัศมีอันโชตนาการขึ้น ณ เบื้องบนพระอุตมังคสิโรตม์ฯ
นิยมเรียกว่า อสีตยานุพยัญชนะ;
พจนานุกรมฯ ข้างต้นระบุถึงคุณลักษณะเกี่ยวกับพระกรรณของพระพุทธเจ้าในข้อที่ 49-50 บรรยายว่าพระกรรณหรือหูนั้นมีสัณฐานอันยาวดุจกลีบปทุมชาติ ช่องพระกรรณมีสัณฐานกลมงาม ซึ่งแตกต่างไปจากอนุพยัญชนะจากคัมภีร์ลลิตวิสตระ แปลโดยแสง มนวิทูรเมื่อปีพ.ศ.2512 ที่ว่า…
- ตุงฺคนขะ เล็บนูน
- ตามฺรนขะ เล็บแดง
- สนิคฺธนขะ เล็บอ่อนเป็นเงางาม
- วฺฤตฺตางฺคุลิ นิ้วพระหัตถ์และนิ้วพระบาทกลม
- อนุปูรฺวจิตฺรางฺคุลิ นิ้วพระหัตถ์และนิ้วพระบาทงามเรียว
- คูฒศิระ พระเศียรราบเรียบ
- คูฒคุลฺผะ พระโคปกะ (ตาตุ่ม) ราบเรียบ
- ฆนสนฺธิ ข้อต่อมั่นคงแข็งแรง
- อวิษมปาทะ ฝ่าพระบาทเสมอกัน
- อายตปารฺษฺณิศะ ส้นพระบาทยาว
- สนิคฺธปาณิเลขะ ลายพระหัตถ์ละเอียดงาม
- ตุลยปาณิเลขะ ลายพระหัตถ์เหมือนกัน (ทั้งสองข้าง)
- คัมภีรปาณิเลขะ ลายพระหัตถ์ลึก
- อชิหฺมปณิเลขะ ลายพระหัตถ์ไม่หักคด
- อนุปูรฺวปาณิเลขะ ลายพระหัตถ์เรียวตามลำดับ
- พิมฺโพษฺฐะ ริมพระโอษฐ์แดงดั่งผลตำลึงสุก
- โนจฺจาวจศพฺทะ พระสุรเสียงไม่ดัง
- มฺฤทุตรุณตามฺรชิหวะ พระชิวหาอ่อนและแดงสด
- คชครชิตาภิสฺตนิตเมฆสวฺรมธุรมญฺชุโฆษะ มีพระสุรเสียง ก้องเหมือนช้างร้อง และเมฆกระหึ่ม แต่หวานและอ่อนโยนไพเราะ
- ปริปูรฺณวฺยญชนะ ตรัสได้ชัดเจนถูกต้องเต็มตามพยัญชนะ
- ปฺรลมฺพพาหุ พระพาหา (แขน) ยาว
- ศุจิคาตฺรวสฺตุสํปนฺนะ สมบูรณ์ด้วยพระวรกายวัสดุอันสะอาดบริสุทธิ์
- มฺฤทุคาตฺระ พระวรกายนิ่ม
- วิศาลคาตฺระ พระวรกายกว้าง
- อทีนคาตฺร พระวรกายไม่ซูบซีดแลดูเป็นสง่าบ่งว่าเป็นผู้มีบุญ
- อนุปูรโวนฺนตคาตฺร พระวรกายสูงเรียวขึ้นเป็นลำดับ
- สุสมาหิตคาตฺระ พระวรกายตั้งขึ้นมั่นคงเป็นอย่างดี
- สุวิภกฺตคาตฺระ พระวรกายได้ส่วนสัดดี
- ปฺฤถุวิปุลสุปริปูรฺณชานุมณฺฑละ พระชานุมณฑล (ตัก) หนา กว้าง เต็ม เป็นอันดี
- วฺฤตฺตคาตฺระ พระวรกายกลม
- สุปริมฺฤษฺฏคาตฺระ พระวรกายเกลี้ยงเกลาดี
- อชิหฺมวฺฤษภคาตฺระ พระวรกายเหมือนโคเพศผู้
- อนุปูรฺวคาตฺระ พระวรกายเรียวไปเป็นลำดับ
- คมฺภีรนาภิ พระนาภีลึก
- อชิหฺมนาภิ พระนาภีไม่บิดเบี้ยว
- อนุปูรฺวนาภิ พระนาภีมีกลีบเป็นชั้น ๆ ลึกลงไปโดยลำดับ
- ศุจฺยาจาระ พระจริยาวัตรเป็นระเบียบและพระมารยาทงดงาม
- ฤษภวตฺสมนฺตปฺราสาทิกะ พระจริยาวัตรงามเหมือนโคเพศผู้
- ปรมสุวิศุทฺธวิติมิราโลกสมนฺตปฺรภะ พระวรกายบริสุทธิ์ผุดผ่อง เหมือนดวงอาทิตย์ฉายแสงในที่มืด
- นาควิลมฺพิตคติ ทรงพระดำเนินแช่มช้อยเหมือนช้างเดิน
- สึหวิกฺรานฺตคติ ทรงย่างกรายองอาจเหมือนสิงห์
- ฤษภวิกฺรานฺตคติ ทรงย่างกรายองอาจเหมือนโคเพศผู้
- หํสวิกฺรานฺตคติ ทรงย่างกรายละมุนละม่อมเหมือนหงส์ย่างก้าว
- อภิปฺรทกฺษิณาวรฺต คติทรงพระดำเนินมีมรรยาทแสดงท่าเคารพอย่างดียิ่ง
- วฺฤตฺตกุกฺษิ พระอุทร (ท้อง) กลม
- มฺฤษฺฏกุกฺษิ พระอุทรเกลี้ยงเกลา
- อชิหฺมกุกฺษิ พระอุทรไม่คดค้อม
- จาโปทระ พระอุทรนูนโค้งเหมือนคันธนู
- วฺยปคตฉนฺทโทษะนีลกาลกาทุษฺฏศรีระ พระวรกายปราศ จากเครื่อง ทำให้รัก และเครื่องทำให้ชัง(คือปราศจากเครื่องเสริมสวยและสิ่งเปรอะเปื้อน)และปราศจากเครื่องประทุษร้ายผิว คือ ปานและไฝ
- วฺฤตฺตทํษฺฏระ พระทาฐะ (เขี้ยว) ซี่กลม
- ตีกฺษณทํษฺฏฺระ พระทาฐะคม
- อนุปูรฺวทํษฺฏระ พระทาฐะเรียวเป็นลำดับ
- ตุงคนาสะ พระนาสิก (จมูก) โด่ง
- ศุจินยนะ พระเนตรแจ่มใสสะอาด
- วิมลนยนะ พระเนตรไม่ขุ่นมัว
- ปฺรหสิตนยนะ พระเนตรยิ้มแย้มร่าเริง
- อายตนยนะ พระเนตรยาว
- วิศาลยนะ พระเนตรกว้าง
- นีลกุวลยทลสทฺฤศนยนะ พระเนตรเหมือนกลีบบัวเขียว
- สหิตภฺรู พระขนง (คิ้ว) ดก
- จิตฺรภฺรู พระขนงงาม
- อสิตภฺรู พระขนงดำ
- สํคตภฺรู พระขนงต่อกัน
- อนุปูรวภฺรู พระขนงเรียวเป็นลำดับ
- ปีนคณฺฑะ พระกโปล (แก้ม) เต็ม
- อวิษมคณฺฑะ พระกโปลเท่ากันทั้งสองข้าง
- วฺยปคตคณฺฑโทษะ พระกโปลปราศจากโทษ (คือไม่เป็นริ้ว รอยสิวฝ้า)
- อนุปหตกฺรุษฺฏะ ไม่แสดงพระพักตร์เหี้ยมเกรียม
- สุวิทิเตนฺทฺริยะ ประสาทอินทรีย์รับรู้ไว
- สุปริปูรฺเณนฺทฺริยะ อินทรีย์ครบบริบูรณ์ (คือมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย หรือผิวหนัง ใจ บริบูรณ์ดี)
- สํคตมุขลลาฏะ พระนลาฏ (หน้าผาก) รับกับพระพักตร์
- ปริปูรฺโณตฺตมางฺค พระเศียรอูมเต็ม
- อสิตเกศะ พระเกศาดำ
- สหิตเกศะ พระเกศาดก (สุสํคตเกศะ มีพระเกศารวมกันเป็นเกลียว)
- สุรภิเกศะ พระเกศาหอม
- อปรุษเกศะ พระเกศาไม่หยาบ
- อนากุลเกศะ พระเกศาไม่ยุ่ง
- อนุปูรฺวเกศ พระเกศาเรียงเส้นเป็นลำดับ
- สุกุญฺจิตเกศะ พระเกศางอหงิกเป็นอันดี
- ศฺรีวตฺส สฺวสฺติก นนฺทฺยาวรฺต วรฺธมานสํสฺถานเกศะ พระเกศา เจริญงามขมวดเวียนขวาเหมือนรูปสวัสติกะซึ่งเป็นศรีวัตสะ (เครื่องหมายกากบาทปลายหักมุมเวียนขวา)
งานศึกษาเรื่องThe Evolution of the Concept of the Buddha from Early Buddhism to the Formulation of the Trikaya Theory ของGuang Xing มีการเปรียบเทียบคัมภีร์ที่กล่าวถึงคัมภีร์ของนิกายสรวาสติวาส ปรากฏเรื่องอนุพยัญชนะ ข้อ 49-50 ความว่า “His ears are long like lotus petals.” (หูทั้งสองยาวดั่งกลีบบัว) และ “His earholes are beautifully rounded.” (ช่องหูนั้นกลมงามดี) คติของพระพุทธรูปที่นิยมแสดงติ่งหูที่ยาวผิดปกติอาจมีที่มาจากอนุพยัญชนะ 80 ประการ ไม่ใช่มหาบุรุษลักษณะ 32 ประการที่กล่าวมาก่อนหน้า นอกจากนี้อนุพยัญชนะ 80 ยังถูกพูดถึงในมิลินทปัญหาอีกแห่งด้วย
ตัวอย่างพระพุทธรูปศิลปะต่างๆ ในเอเชีย
1.พระเศียรพระพุทธรูปศิลปะจีนราชวงศ์หมิง
2.พระพุทธรูปศิลปะคันธาระ
3. พระพุทธรูปไทยศิลปะสุโขทัย
4. พระพุทธรูปศิลปะจีนสมัยราชวงศ์จิน [金朝]
© The Metropolitan Museum of Art
แล้ว “ศากยมุนี” ในมหาศึกคนชนเทพล่ะ?
กลับมาดูตัวตึงฝั่งมนุษย์อย่างบุดด้า หนุ่มวัยต่อต้านที่แข็งแกร่งที่สุดกัน เราคงพูดได้ว่าลักษณะของศากยมุนีใน Record of Ragnarok มีการอ้างอิงจากมหาบุรุษลักษณะจากคัมภีร์มหายานมาอย่างเด่นชัด ด้วยเพราะศาสนาพุทธในญี่ปุ่นจัดอยู่ในร่มของนิกายมหายาน แต่ก็มีบางจุดที่ปรากฏมาจากคัมภีร์เถรวาทเช่นกัน ซึ่งหากเราจะเจาะบุคลิกของพระพุทธเจ้าจากอนิเมะเรื่องนี้ ก็อาจพูดถึงทีละส่วนได้โดยเริ่มจากช่วงศีรษะ

ศากยมุนีถูกออกแบบให้รวบผมสูงเหมือนมงกุฏ สีเส้นผมบางส่วนเป็นสีน้ำเงินม่วงแบบโทนดอกอัญชัน กลางหน้าผากมีการทำอุณาโลมสีขาวตามที่ปรากฏจากสองคัมภีร์ ทุกเอกสารล้วนให้ความสนใจกับพระทาฐะ (เขี้ยว) ศากยมุนีจึงมีเขี้ยวยาวโดดเด่นในการ์ตูน ส่วนลิ้นที่มักแลบยาวออกมาก็มีลักษณะใกล้เคียงกับที่บรรยายว่าพระชิวหาของพระพุทธเจ้ายาว (จากคัมภีร์เถรวาท) และกว้างมาก (จากคัมภีร์มหายาน) ส่วนใบหูที่ติ่งยาวมากนั้นก็เป็นการใช้อนุพยัญชนะซึ่งปรากฏจากรูปเคารพทั้งนิกายเถรวาทกับมหายานโดยทั่วไป

ในขณะที่ลักษณะของใบหน้าและทรงผมค่อนข้างได้รับอิทธิพลจากคติโบราณเป็นอย่างมากโดยใส่ใจทุกรายละเอียด แต่ลักษณะทางร่างกายของตัวละครค่อนข้างจะไม่ตรงไปตามตำราเสียเลย แต่ยังคงเสนอความสง่างาม สูงโปร่งช่วงลำตัวเพรียว ช่วงกายบนกว้างเอวสอบเข้า มีหน้าตักต้นขาใหญ่กลม ส่วนหน้าแข้งเรียวเล็กลงมาเป็นลำดับ
พอจะกล่าวโดยสรุปอย่างสั้นได้ว่าในการออกแบบตัวละครศากยมุนีนี้ไม่ได้มีแค่การพยายามมุ่งเน้นสร้างภาพใหม่ที่ขบถต่อศิลปะประเพณีที่ทำกันมาในสังคมตั้งแต่ยุคโบราณ แต่เป็นการรื้อสร้าง (reconstrct) จากข้อความในคัมภีร์ของศาสนาพุทธเอง และได้สร้างภาพของความเป็นขบถเพื่อมวลมนุษยชาติ ซึ่งเป็นลักษณะที่ไม่เน้นในการสอนวิชาพระพุทธศาสนามากนักในแง่ของแนวคิดที่หักล้างคติความเชื่อดั้งเดิมของอินเดียมาก่อ ด้วยการละทิ้งขนบธรรมเนียมเหล่านั้นและมุ่งเดินในไปทางธรรมเพื่อแสวงหาทางหลุดพ้นจากบ่วงทั้งปวง แนวคิดและปรัชญาของพระพุทธองค์ยังเป็นรากฐานปรัชญาตะวันออกบางกลุ่ม สุดท้ายนี้ปรัชญาและคำสอนต่างๆ ก็เดินทางมาเป็นศาสนาหลักที่มีผู้คนนับถือมากที่สุดในประเทศไทย
แต่น่าเสียดาย…การละทิ้งปล่อยวางไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ยังยาก แต่หากลองได้ว่าภาพที่ยีดติดเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าแล้วเปิดใจให้สื่อบันเทิงเรื่องนี้ แม้ว่าเราอาจจะไปไม่ถึงนิพพานแต่ก็อาจมีความสำราญใจมากขึ้น สาธุ
แวะไปอ่านเรื่อง “กระต่าย” กับความเชื่อที่ปรากฏบนเสื้อของศากยมุนีได้ทาง…
อุซะจังบนเสื้อของ “บุดด้า” ศากยมุนี #มหาศึกคนชนเทพ
สงสัยมั้ยว่าทำไมตัวละครพระพุทธเจ้าที่ปรากฏในมังงะกับอนิ…

References :
- Xing, Guang. (2004). The Concept of the Buddha: Its Evolution from Early Buddhism to the Trikaya Theory. 10.4324/9780203413104.
- เชษฐ์ ติงสัญชลี.(2565).มุทรา ท่าทาง เครื่องทรง สิ่งของ รูปเคารพในศาสนาพุทธ เชน ฮินดู .มิวเซียมเพรส.
- พระมหาบุรุษลักษณะ (พิมพ์ครั้งที่ 1). (2510). กรมศิลปากร.
- พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค.บรรทัดที่ ๓๑๘๒-๓๙๒๒ หน้าที่ ๑๓๒-๑๖๑. http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=11&A=3182&Z=3922&pagebreak=0
- พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต). (2550) .พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์.Retreived 18 July 2023,from https://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%CD%B9%D8%BE%C2%D1%AD%AA%B9%D0
- แสง มนวิทูร. (2512). ลลิตวิสตระ คัมภีร์พระพุทธประวัติฝ่ายมหายาน.กรมศิลปากร.




